ค่าธรรมเนียมค้าขายหุ้น สิ่งที่นักลงทุน ไม่ควรละเลย /โดย ลงทุนแมน
หนึ่งในหัวข้อที่ถูกแย้งกันมากมาย เมื่อเร็วๆนี้ ในวงการตลาดหุ้นไทย
อาจจะหนีไม่พ้นเรื่องภาษีขายหุ้น ที่ทางรัฐบาลจะเริ่มเก็บในอัตรา 0.055% ของราคาการขาย
โดยคาดว่าจะเริ่มในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2566 และปรับขึ้นเป็น 0.11% ในปี 2567
เมื่อก่อนที่จะไปถึงวันนั้น เราเคยสงสัยไหมว่า ที่เราส่งคำบัญชาค้าขายหุ้นนั้น มีค่าจารีตอะไร ? แล้วเราจะต้องจ่ายให้คนใดกันบ้าง ? วันนี้ลงทุนแมนจะมาสรุปให้ฟัง
╔═══════════╗
สภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันแปรอย่างงี้ ติดตามข่าวธุรกิจแบบย้ำๆจากหลายเพจได้ใน foontic - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเสมอๆ 2 ล้านคน ทดลองใช้ฟรี https://foontic.net/
╚═══════════╝
ปัจจุบันนี้ ในช่วงเวลาที่พวกเราซื้อขายแลกเปลี่ยนหุ้น จะสามารถส่งคำสั่งได้ผ่าน 2 หนทาง คือ
- ค้าขายเองผ่านอินเทอร์เน็ต
- ซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาดหรือผู้แนะนำการลงทุน
ซึ่งค่าธรรมเนียมที่พวกเราจำต้องจ่ายนั้น จะประกอบไปด้วย

1. ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์
โดยการส่งคำสั่งซื้อขายแลกเปลี่ยนเองผ่านอินเทอร์เน็ต จะมีค่าธรรมเนียมถูกกว่า การค้าขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาดหรือผู้แนะนำการลงทุน
ซึ่งตรงนี้ จะเป็นการเรียกเก็บจากบริษัทหลักทรัพย์ที่เราใช้บริการ
นอกเหนือจากนี้ ยังมีเรื่องมีราวราคาการค้าขายต่อวัน เข้ามาเกี่ยวเนื่องด้วย
ซึ่งธรรมดาแล้ว ราคาการซื้อขายต่อวันที่สูง ก็จะเสียค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า เป็นไปตามลักษณะของขั้นบันได
โดยค่าธรรมเนียมการส่งคำบัญชาซื้อขายแลกเปลี่ยนเองผ่านอินเทอร์เน็ต จะอยู่ในตอนราว 0.12-0.20%
และค่าธรรมเนียมยังมีความแตกต่างกันออกไปตามรูปแบบของบัญชีหุ้นอีกด้วย
ในช่วงเวลาที่ค่าธรรมเนียมการส่งคำบัญชาซื้อขายแลกเปลี่ยนผ่านข้าราชการการตลาดหรือผู้แนะนำการลงทุน จะอยู่ในตอนราวๆ 0.15-0.25%
2. ค่าธรรมเนียม สำหรับเพื่อการดูแลของทางตลาดหลักทรัพย์
โดยค่าธรรมเนียมจะเป็นส่วนที่เราจ่ายให้กับตลาดค้าหุ้น ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ส่วน เป็น
- ค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ (SET Trading Fee) 0.005% ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
- ค่าธรรมเนียมการชำระราคา แล้วก็มอบหลักทรัพย์ (TSD Clearing Fee) 0.001% ของราคาการค้าขายต่อวัน
- ค่าธรรมเนียมการกำกับดูแล 0.001% ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน

โดยค่าธรรมเนียมทั้งสิ้นรวมกันอยู่ที่ 0.007% ของค่าการค้าขายต่อวัน

3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
เป็นภาษีที่เก็บจากค่าธรรมเนียมสำหรับเพื่อการจำหน่ายหุ้น ที่จะนำส่งเข้ารัฐ โดยในตอนนี้ มีการเรียกเก็บที่ 7% ของราคาค่าธรรมเนียมทั้งยังธุรกรรมซื้อและขายหุ้น
ซึ่งภาษีที่ตรงนี้ จะคิดจากค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นที่เราจ่ายให้กับโบรกเกอร์
4. ค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ
บางโบรกเกอร์จะมีการคิดค่าธรรมเนียมอย่างต่ำ ธรรมดาจะอยู่ที่ 50 บาทต่อวัน
ซึ่งถ้าเกิดในวันนั้นเราจำหน่ายหุ้น เสียค่าบริการไม่เกิน 50 บาท ทางโบรกเกอร์จะคิดค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ที่ 50 บาทในทันที
เพื่อเห็นภาพรวมมากขึ้น สมมุติว่า พวกเราซื้อหุ้น PTT ปริมาณ 10,000 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 35 บาท ด้วยการค้าขายหุ้นด้วยตัวเองผ่านอินเทอร์เน็ต โดยที่ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์อยู่ที่ 0.20% และก็ค่าธรรมเนียมสำหรับการดูแลของตลาดหุ้นอยู่ที่ 0.007%

ซึ่งการคำนวณค่าธรรมเนียมจำหน่ายหุ้น จะมาจาก จำนวนหุ้น x ราคาหุ้น x ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์รวมกับค่าธรรมเนียมสำหรับการดูแลของตลาดหุ้น x (1+VAT 7%)
เพราะฉะนั้น ค่าธรรมเนียมที่เราต้องเสียเป็น 10,000 x 35 บาท x (0.20%+0.007%) วิธีการเปิดพอร์ตหุ้น x 1.07 โบรกเกอร์หุ้นไทย จะเท่ากับ 775.21 บาท
ซึ่งทั้งผองแล้ว การซื้อหุ้น PTT จำนวน 10,000 หุ้น ที่ราคา 35 โบรกเกอร์ ค่าธรรมเนียม ถูกที่สุด บาท พวกเราจำต้องชำระเงินทั้งหมด 350,775.21 บาท
ในทางกลับกัน ถ้าเกิดเราส่งคำบัญชาขายด้วยจำนวนเงินแล้วก็ราคาเดิม ค่าธรรมเนียมดังกล่าวข้างต้น ก็จะต้องไปหักจากต้นทุนที่พวกเราขาย ด้วยเหตุนั้น เราต้องจ่ายเงินทั้งหมด 349,224.49 บาท
อย่างไรก็ดี ค่าธรรมเนียมบางส่วนก็อาจมีการเจรจาต่อรองได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นนักลงทุนที่จำหน่ายหุ้นในปริมาณมาก ก็บางครั้งอาจจะขอลดค่าธรรมเนียมจากโบรกเกอร์ ซึ่งก็จะช่วยออมทุนนี้ไปได้